Sep
สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการ จัดฟัน ไม่ว่าจะข้อดี ข้อเสีย ค่าใช้จ่าย การเคลียร์ช่องปาก รวมถึงปัญหาระหว่าง จัดฟัน ที่พบบ่อย ๆ เรามีคำตอบให้คุณค่ะ
คน จัดฟัน หลาย ๆ คนคงเจอปัญหาไม่น้อยเมื่อเริ่มติดอุปกรณ์ ถ้าไม่พูดถึงเรื่องความเจ็บปวดในอันดับแรก การใช้ชีวิตประจำวันก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปด้วย ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ต้องเลือกมากขึ้น บางเมนูนับได้ว่าเป็นเมนูต้องห้ามสำหรับบางคนเลยก็มี แถมหลังมื้ออาหารก็ต้องคอยเช็คความเรียบร้อยอีกว่ามีเศษอาหารติดฟันหรือไม่ ความมั่นใจเวลาจะต้องไปพบปะ หรือพูดคุยกับใครต่อก็เป็นเรื่องยากไปอีก แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องปัญหาที่พบบ่อยสำหรับคน จัดฟัน และเป็นเรื่องกังวลใจไม่น้อย
ปัญหาที่คน จัดฟัน ต้องเจอ
คนไข้เมื่อติดเครื่องมือบริเวณผิวหน้าฟัน ทำให้มีลักษณะเครื่องมือขัดขวางการเคลื่อนไหวบริเวณริมฝีปาก รวมถึงการใส่เครื่องมือพิเศษที่ติดกับเพดาน ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวบริเวณลิ้นมีการติดขัดไปด้วย ซึ่งบางคนกว่าจะปรับตัวได้ก็คงใช้เวลาไม่น้อย
เกิดจากคราบจุลินทรีย์ติดอยู่บนผิวฝัน ยิ่งมีเครื่องมือติดอยู่บนผิวฟัน ก็จะยิ่งทำให้เศษอาหารที่เปลี่ยนเป็นคราบจุลินทรีย์นั้นสะสมได้มากกว่าปกติ เนื่องจากการทำความสะอาดจะค่อนข้างยาก จึงเป็นสาเหตุให้มีกลิ่นปากได้ง่าย
โดยปกติแล้วเครื่องมือ จัดฟัน ที่มีโอกาสหลุด และ ทำให้เรากลืนลงคอได้คือ แบร็กเก็ต ดังนั้น จึงแนะนำให้เลือกเข้ารับการรักษาคลินิก ทำฟัน ที่ได้รับมาตรฐาน และ ตัดสินใจรักษากับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีการวางแผนเป็นระบบชัดเจน ซึ่งจะช่วยลดเรื่องความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเรื่องแบร็กเก็ตหลุดบ่อย ๆ ด้วย แต่ในขณะเดียวกับสาเหตุที่ทำให้แบร็กเก็ตหลุด ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารของคนไข้อีกด้วย แต่หากบางคนเลือกที่จะ จัดฟัน แฟชั่น ที่ใช้อุปกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน และ ไม่ได้รับการวางแผนที่ดีโดยทันตแพทย์ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเครื่องมือดังกล่าวจะปลอดภัย จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะกลืนอุปกรณ์ลงคอ และ ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย และ ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันล้มอีกด้วย
เมื่ออุปกรณ์หลุด และ ไม่รีบพบทันตแพทย์ ด้วยอุปกรณ์ที่ยึดติดบริเวณผิวฟันมีโอกาสหลุดได้จากการรับประทานอาหาร หรือ เครื่องมืออาจกระทบกับสิ่งแปลกปลอมภายในช่องปาก ซึ่งคนไข้บางคนเมื่อทราบว่าอุปกรณ์หลุดแล้วอาจไม่ได้เข้าพบทันตแพทย์เพื่อติดเครื่องมือใหม่ทันที ทำให้ฟันซี่นั้นไม่เคลื่อนที่ ส่งผลให้การรักษายาวนานขึ้น การแก้ไขในการรักษาจะทำให้ยากลำบากขึ้นไปด้วย
อันนี้เป็นอนิจจังของคน จัดฟัน เลยทีเดียว เพราะ จะปวดตั้งแต่ติดเครื่องมือครั้งแรกเลย เวลาไปปรับเครื่องมือแต่ละครั้ง เราก็จะปวดไปประมาณ 3-5 วัน แล้วมันก็จะค่อย ๆ ชินไปเอง
เนื่องจากจะต้องปรับลวด เปลี่ยนยาง ทุก ๆ เดือน ทันตแพทย์จึงจะเป็นคนนัดเราทุก ๆ เดือน ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องเคร่งครัดมาก ๆ เลย เพราะถ้าเราเว้นการหาหมอหลายเดือน ฟันเราจะออกนอกแพลนของหมอ การเข้าของฟันก็จะช้า ระยะเวลาการ จัดฟัน ก็จะนานเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เมื่อเริ่มติดเครื่องมือ จัดฟัน การแปรงฟันก็จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ใช้เวลานานขึ้น จากปกติที่แปรงฟัน 5 นาทีเสร็จ กลายเป็นว่าต้องทำความสะอาดฟันหลายขั้นตอน ทั้งต้องแปรงซอกฟันหลังแปรงฟันต่อ แล้วปิดท้ายด้วย ไหมขัดฟันขัดเศษอาหารที่ติดฟันออกเพื่อป้องกันฟันผุ
เป็นสิ่งที่เลี่ยงยากมาก เพราะ เมื่อเรามีเหล็กมาติดที่ฟัน เวลาเราขยับปากเยอะทั้งจากการเคี้ยว การพูด ก็ทำให้เกิดการเสียดสี ถ้าเสียดสีเยอะ ๆ ก็อาจทำให้แตกเป็นแผล แต่เราสามารถที่จะเลี่ยงได้โดยการติดขี้ผึ้งที่ทันตแพทย์ให้มาเพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บตามริมฝีปากได้
การดูแลฟันเมื่อ จัดฟัน
ผู้ที่ทำการ จัดฟัน ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันสไตล์ไหน ควรหมั่นทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร และก่อนนอน เพราะในระหว่างที่ทานอาหาร อาจจะทำให้มีเศษอาหารต่าง ๆ ติดตามซอกฟัน หรือเครื่องมือ จัดฟัน ซึ่งการบ้วนปากอาจไม่สามารถกำจัดเศษอาหารที่ตกค้างออกได้หมด
นอกจากการแปรงฟันแล้ว อาจใช้อุปกรณ์เสริม หรือตัวช่วยอื่น ๆ อย่างไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง หลายคนที่ใช้ไหมขัดฟันไม่สะดวก อาจจะเลือกใช้เป็น ไหมขัดฟันชนิดพิเศษ เพราะจะช่วยทำความสะอาดได้ง่ายกว่าซึ่งใช้ส่วนปลายของไหมขัดฟันชนิดพิเศษ ที่มีความแข็งสอดเข้าไปที่เครื่องมือจัดฟัน โดยสอดเข้าไประหว่างฟัน และลวด
ผู้ที่ จัดฟัน ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เพื่อป้องกันฟันผุ รวมถึงน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์ ซึ่งควรใช้อย่างน้อยวันละครั้งเพื่อลดอัตราการเกิดฟันผุ ส่วนการใช้แปรงสีฟันที่ออกแบบมาเฉพาะผู้ที่ จัดฟัน จะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย การใช้แปรงสีฟันธรรมดา ซึ่งการแปรงซอกฟัน แปรงชนิดนี้จะสามารถเข้าไปทำความสะอาดซอกฟัน และ บริเวณใต้ลวดด้วยการสอดหัวแปรงเข้าใต้ลวดระหว่างซอกฟัน และทำการหมุนเบา ๆ
ผู้ที่ จัดฟัน ควรหมั่นตรวจสุขภาพฟัน และทำการขูดหินปูน ร่วมกับการตรวจเช็คฟันผุ ทุก ๆ 6 เดือน ซึ่งผู้ที่ติดเครื่องมือ จัดฟัน จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคฟันผุ หรือ เหงือกอักเสบได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ซึ่งแม้จะบอกว่าการไปหาหมอทุก ๆ เดือนจะต้องตรวจสุขภาพฟันอยู่แล้ว แต่นั่นก็อาจไม่เพียงพอ เพราะ การได้ดูแลรักษาฟัน เพื่อเป็นการป้องกันโรคที่อาจจะเกิด จะได้ทำการรักษาทัน เพื่อที่จะทำให้การจัดฟันของคุณไม่เสียเปล่า
สิ่งที่ควรระวังเมื่อ จัดฟัน
ปัจจุบันก็มีการ จัดฟัน ที่มากมายหลายประเภทให้เราได้ศึกษา และตัดสินใจว่าเราควร จัดฟัน ประเภทใดให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของเรา เพราะทุกการ จัดฟัน จะมีปัญหาของมัน ก่อนจะ จัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ให้เรียบร้อยเกี่ยวกับการ จัดฟัน ของเรา เพื่อลดปัญหาที่จะตามมาทีหลัง
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม