คำถามที่คนเริ่มสนใจจะ จัดฟัน ยอดฮิตคือ ระยะเวลาในการ จัดฟัน ของฉันนั้นนานเท่าไร ซึ่งทางทันตแพทย์ก็ไม่สารถให้คำตอบชัวร์ ๆ ได้ เพราะฟันแต่ละคนมักมีปัญหาไม่เหมือนกัน
เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะ จัดฟัน คำถามที่คนไข้ทุกคนจะต้องถามทันตแพทย์ก็คือ ต้องใส่เครื่องมือ จัดฟัน ไว้เป็นเวลานานแค่ไหน ? คำตอบนี้จะแตกต่างกันไปสำหรับคนไข้แต่ละคน และสภาพฟัน ช่องปาก และอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในการ จัดฟัน ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน มีหลายปัจจัยที่ทำให้คนไข้แต่ละคนใช้เวลาในการ จัดฟัน แตกต่างกัน เช่น อายุของคนไข้ ลักษณะความผิดปกติของฟัน ที่มีทั้งการเรียงตัวไม่ปกติเพียงเล็กน้อย และความผิดปกติของขากรรไกร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ตลอดจนเครื่องมือที่คนไข้เลือกใช้ในการ จัดฟัน ด้วย ทันตแพทย์จะต้องประเมินสถานการณ์โดยรวมทั้งหมดของคนไข้แต่ละคนก่อน จึงจะสามารถบอกได้ว่า คนไข้รายนั้น ๆ จะต้องใช้เวลาในการใส่เครื่องมือ จัดฟัน นานแค่ไหน
เมื่อคนไข้มาพบทันตแพทย์เฉพาะทางในสาขา จัดฟัน เพื่อรับคำปรึกษา ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพในช่องปากอย่างละเอียด เอ็กซเรย์ ทำแบบจำลองฟัน ถ่ายภาพ ซักประวัติ และนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมินว่าคนไข้ต้องการรับการรักษาในลักษณะใด
แต่โดยเฉลี่ยแล้ว การ จัดฟัน นั้นจะใช้เวลาประมาณ 16-18 เดือน ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 24 เดือน หรือมากกว่านั้น และคนไข้บางรายก็อาจจะใช้เวลาในการ จัดฟัน เพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น
สำหรับคนไข้ จัดฟัน ในวัยผู้ใหญ่ ระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการ จัดฟัน จะมากกว่าในคนไข้เด็ก เพราะฟันของผู้ใหญ่จะหยุดการเจริญเติบโตแล้ว และยึดติดแน่นในตำแหน่งนั้น การ จัดฟัน จึงต้องอาศัยแรงดึงที่มากกว่า จึงจะเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่คนไข้ จัดฟัน ในวัยผู้ใหญ่ อาจจะต้องใส่อุปกรณ์ จัดฟัน เป็นเวลานาน 18 เดือน หรืออาจจะนานถึง 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ในคนไข้เด็กบางรายก็อาจจะใช้เวลาในการ จัดฟัน นานกว่าปกติ และอาจจะนานกว่าคนไข้ผู้ใหญ่ก็ได้ เพราะมีความผิดปกติในการจัดเรียงตัวของฟันมาก เช่น มีฟันขึ้นผิดตำแหน่งจนต้องถอนฟันออก และรอให้ฟันแท้ขึ้นมาก่อน หรือมีความผิดปกติของขากรรไกร เป็นต้น
แม้ว่าทันตแพทย์จะประเมินระยะเวลาคร่าว ๆ ในการใส่อุปกรณ์ จัดฟัน ให้แล้ว แต่ในบางกรณี ระยะเวลาในการใส่ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าหากอยากจะนำเหล็กจัดฟันออกให้ได้ตามกำหนด หรือสั้นกว่าที่มีการประเมินไว้ คนไข้ควรจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด และรักษาสุขภาพอนามัยในช่องปากได้เป็นอย่างดี ดังนี้
- มาพบทันตแพทย์ตรงตามการนัดหมายทุกครั้ง เพื่อที่จะได้ปรับเครื่องมือ สำหรับอุปกรณ์แบบยิดติด และเปลี่ยนชุดอุปกรณ์สำหรับอุปกรณ์ จัดฟัน แบบถอดได้
- กรณีที่ใส่อุปกรณ์ จัดฟัน แบบถอดได้ ต้องใส่อุปกรณ์ไว่ในช่องปากให้ได้ตามกำหนดเวลาที่ทันตแพทย์ได้กำหนดไว้ให้อย่างเคร่งครัดในทุก ๆ วัน
- คนไข้ จัดฟัน ควรเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นอาจจะสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์ จัดฟัน คืออาหารแข็ง อาหารเหนียว อาหารที่ต้องเคี้ยวมาก ๆ เช่น ป๊อบคอร์น มันฝรั่งอบกรอบ ลูกอมขนมหวาน เพราะอาหารเหล่านี้ อาจจะทำให้อุปกรณ์ จัดฟัน ที่ใส่ไว้แตก บิ่น หลุด เสียหาย จนต้องมาเสียเวลาซ่อมแซม หรือติดอุปกรณ์ใหม่
- รักษาอนามัยในช่องปากให้ดี แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ ซึ่งหากเป็นขึ้นมาในระหว่างการ จัดฟัน นั้น จะเสียเวลา ทำให้การ จัดฟัน ต้องยืดระยะเวลาออกไปอีก
ประเภทของเครื่องมือ จัดฟัน
ปัจจุบันเครื่องมือ จัดฟัน มีหลากหลายประเภท แตกต่างกันที่วัสดุ หรือลักษณะการติดเครื่องมือ จัดฟัน ลงบนฟัน ซึ่งการเลือกใช้ก็อาจขึ้นอยู่กับข้อคำนึงด้านความสวยงาม ราคาค่าใช้จ่าย และความเสี่ยงต่อการแพ้วัสดุ จัดฟัน ที่ใช้ โดยลักษณะของเครื่องมือ จัดฟัน อาจแบ่งเป็นประเภทดังต่อไปนี้
- เครื่องมือ จัดฟัน แบบโลหะ ( Metal Braces ) เป็นวิธีการ จัดฟัน ที่นิยมใช้กันมากที่สุด โดยจะใช้กาวพิเศษสำหรับ จัดฟัน ยึดติดแบร็คเก็ตที่เป็นโลหะลงบนฟันแต่ละซี่ แล้วใส่ลวดไปตามแบร็คเก็ตนี้ สุดท้ายใช้ห่วงยางเล็ก ๆ ที่ยืดหยุ่นได้ติดเพื่อป้องกันไม่ให้ลวด จัดฟัน หลุด เครื่องมือที่ติดลงไปบนฟันนี้จะกดให้ฟันเคลื่อนตัวไปในทิศทางที่ต้องการทีละนิด
- เครื่องมือ จัดฟัน แบบสีเหมือนฟัน ( Ceramic Braces ) ด้วยการใช้แบร็คเก็ต และลวดที่มีสีกลมกลืนกับฟันทำจากเซรามิก ประกอบกับยางรัดฟันที่มีสีใส ส่งผลให้ฟันมีความสวยงามมากกว่า เนื่องจากสังเกตเห็นถึงการ จัดฟัน ได้ยาก แต่ข้อเสียของเครื่องมือ จัดฟัน แบบเซรามิกก็คือ มีความคงทนน้อยกว่าชนิดแรก จึงง่ายต่อการแตกหัก
- เครื่องมือ จัดฟัน แบบไม่ต้องรัดยาง ( Self-ligating ) เป็นการใช้เครื่องมือติดฟันแบบที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยางรัดเพื่อยึดลวดไว้ ผู้ที่จัดฟันชนิดนี้จะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยางทุก ๆ เดือนอย่างการ จัดฟัน แบบใช้ยางยึด
- เครื่องมือ จัดฟัน ด้านใน ( Ligual Braces ) มีความแตกต่างจากเครื่องมือแบบโลหะ และเซรามิกที่เครื่องมือชนิดนี้จะติดเข้าที่ด้านในของฟัน เพื่อไม่ให้เห็นเครื่องมือ จัดฟัน จึงนับว่ามีข้อดีต่อความสวยงามของฟัน ไม่ต้องมีอุปกรณ์จัดฟันมากวนใจเวลาพูด หรือยิ้ม ส่วนระยะเวลาการดำเนินการ จัดฟัน ทั้งหมดจะพอ ๆ กับการ จัดฟัน ด้านนอก แต่การไปพบทันตแพทย์ จัดฟัน เพื่อติด หรือเปลี่ยนเครื่องมือในแต่ละครั้งนั้นมักต้องใช้เวลานานกว่า
- เครื่องมือ จัดฟัน แบบใส ( Clear Aligners ) วัสดุที่ใช้ทำเครื่องมือสำหรับการ จัดฟัน ชนิดนี้เป็นพลาสติกแบบใส รูปร่างพอดีสำหรับใส่ครอบฟันไว้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้แบร็คเก็ต หรือลวดยึดติดบนฟัน แต่ต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนเครื่องมือทุก ๆ 2-3 สัปดาห์
- เครื่องมือ จัดฟัน แบบถอดได้ ( Removable Appliance ) มักใช้ในการ จัดฟัน ระยะที่ 1 ของเด็กที่ยังไม่พร้อมสำหรับการ จัดฟัน ด้วยการติดเครื่องมือชนิดอื่น โดยจะช่วยปรับฟันบนด้านหน้าที่ยื่นผิดปกติด้วยการติดเครื่องมือนี้ หรือขยับฟันที่ขากรรไกรล่าง ส่งผลให้ฟัน และขากรรไกรขยับตัวอยู่ในตำแหน่งที่ดีขึ้น
นอกเหนือจากการใช้เครื่องมือ จัดฟัน เหล่านี้ คนไข้บางรายที่ขากรรไกรบน หรือขากรรไกรล่างยื่นออกมาจนการสบของฟันไม่เท่ากัน ก็อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดศัลยกรรมเพิ่มเติม เพื่อให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น
ผลข้างเคียงหลังการ จัดฟัน
การใส่เหล็ก จัดฟัน ค่อนข้างมีความปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงบางประการ ดังนี้
- ความเสี่ยงระยะสั้น อุปกรณ์ จัดฟัน อาจทำให้เกิดพื้นที่เล็ก ๆ รอบฟันที่ง่ายต่อการสะสมของอาหาร และการเพิ่มของคราบจุลินทรีย์ และแบคทีเรียทั้งหลาย ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียแร่ธาตุบนผิวชั้นเคลือบฟันจนเกิดคราบขาวถาวรหลงเหลือทิ้งไว้หลังจากกการนำเหล็กออก รวมทั้งปัญหาฟันผุ และโรคเหงือกที่อาจตามมา
- ความเสี่ยงระยะยาว ความยาวของรากฟันลดลง เนื่องจากในขณะที่ฟันมีการเคลื่อนไหว กระดูกในบริเวณที่ฟันเคลื่อนที่จะหายไป เกิดกระดูกใหม่มาแทน ในกระบวนการนี้เองที่อาจเกิดการสูญเสียรากฟันไปอย่างถาวร เป็นสาเหตุของฟันที่ไม่แข็งแรงตามมา อย่างไรก็ตาม ฟันที่ไม่มั่นคงนี้ส่วนใหญ่ไม่ทำให้เกิดปัญหาใด ๆ
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือ ฟันกลับไปเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ เกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผู้รับการ จัดฟัน ไม่ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์หลังจากนำเครื่องมือ จัดฟัน ออกไปแล้ว โดยเฉพาะการไม่ใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ ที่จะนำไปสู่การเรียงตัวของฟันที่ผิดไปจากเดิม ทำให้อาจต้องรักษาด้วยการ จัดฟัน ใหม่อีกครั้ง
อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม
เจาะลึกการ จัดฟัน แบบโลหะ
หน้าเปลี่ยนหลัง จัดฟัน เป็นไปได้จริงหรือ?