ข้อแตกต่างการจัดฟันแบบใสกับแบบโลหะ เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำ

สมัยนี้การจัดฟันดูจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไปแล้ว เพราะใคร ๆ ก็ทำกัน ซึ่งยิ่งวิทยาการพัฒนาไปมากเทคนิคและรูปแบบการจัดฟันก็มีมากขึ้น วันนี้มีทั้งรูปแบบการจัดฟันติดเครื่องมือที่เป็นแบบโลหะกับจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือหรือจัดฟันแบบใสมาให้เราเลือก ซึ่งแต่ละแบบยังมีแยกย่อยลงไปอีก แล้วทั้งสองแบบนี้เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร มาดูกันเลย เผื่อคุณจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น

ปูพื้นฐานกับการจัดฟันทั้ง 2 รูปแบบ

เบื้องต้นมารู้จักกับการจัดฟันทั้ง 2 แบบกันก่อน จะได้เห็นภาพรวมกว้าง ๆ ว่าแต่ละแบบมีอะไรน่าสนใจบ้าง

             1.จัดฟันแบบโลหะ

               หากจะถามว่าการจัดฟันแบบไหนได้รับความนิยมสูงมาโดยตลอด แน่นอนเลยว่าคำตอบก็คงจะเป็นการจัดฟันแบบโลหะนี่เอง สิ่งที่ทำให้การจัดฟันแบบนี้ได้รับความนิยมก็เพราะว่า

·       วิธีการทำไม่ซับซ้อนนัก

·       ด้านราคาก็ถือว่าถูกกว่าประเภทอื่น ๆ

โดยรูปแบบนี้จะมีใช้โลหะแบบพิเศษที่เหมาะสำหรับการจัดฟันโดยเฉพาะ ที่เรียกว่า Bracket นำมาติดที่บริเวณผิวฟันด้านนอก และก็จะมีการใส่ลวดและยางจัดฟันเพื่อยึดฟันให้เกิดการเรียงตัวไปในทิศทางที่ต้องการ และยางจัดฟันนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ เดือน เพื่อให้ฟันเข้ารูปและเพื่อความสะอาดของฟันด้วย 

2.จัดฟันแบบใส

การจัดฟันใสนั้นเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะนี้ เพราะ

·       ตอบโจทย์เรื่องความสวยงาม เนื่องจากการจัดฟันแบบนี้จะไม่ต้องติดโลหะ ทำให้สามารถจัดฟันได้แบบไม่ต้องกังวลใจ

·       ประสิทธิภาพในการจัดฟันให้เกิดการเรียงตัวทำได้ดีไม่แพ้การจัดฟันแบบโลหะ แต่จะช่วยทำให้ผู้ที่เข้ารับการจัดฟันเกิดความมั่นใจในการใช้ชีวิตตามปกติมากกว่า เพราะไม่ต้องติดอุปกรณ์อะไรที่ฟัน

โดยจัดฟันแบบใสจะมีการใช้นวัตกรรมใหม่เข้ามาช่วยในการจัดฟัน นั่นคือ การใช้อุปกรณ์แบบใสเข้ามาช่วยทำให้ฟันเกิดการเรียงตัวเข้ารูปตามต้องการ

เมื่อเทียบกันแล้ว ควรจะเลือกแบบไหนดี?

จากภาพรวมที่กล่าวมาข้างต้น คุณจะเห็นว่าการจัดฟันทั้งสองรูปแบบนั้น ต่างก็สามารถตอบโจทย์การรักษา สามารถจัดฟันให้เกิดการเรียงตัวสวยงามตามต้องการได้ทั้งคู่ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่คุณต้องรู้ไว้ก่อนตัดสินใจเลือกด้วย นั่นก็คือ

·       ราคา – หากคุณมีงบประมาณไม่มากนักก็ดูเหมือนว่า การจัดฟันแบบโลหะนั้นจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ดีกว่า เพราะจัดฟันแบบใสราคาสูงทีเดียว เพราะจะต้องใช้เทคโนโลยีในการสแกน 3D การส่งผลเข้าแลป และค่าอุปกรณ์ จึงทำให้ราคาสูงกว่าแบบโลหะหลายเท่าทีเดียว

·       ความสวยงาม – แน่นอนว่าเรื่องนี้การจัดฟันใสชนะขาด เพราะไม่ต้องติดอุปกรณ์ใด ๆ หากคุณเลือกจัดฟันด้วยวิธีนี้ บางทีคนที่อยู่รอบข้างคุณยังไม่รู้เลยว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ ซึ่งผิดกับแบบโลหะที่จะต้องเผยลวดและยางจัดฟัน ตรงนี้สำหรับบางคนแล้วก็กระทบกับความมั่นใจในการใช้ชีวิตและหน้าที่การงานอยู่ไม่น้อย

·       ระยะเวลาและความสะดวก – ตรงนี้ทั้งสองแบบมีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกันไป จัดแบบโลหะจะเร็วและสะดวกในแง่ของทันตแพทย์ คือหลังตรวจเช็คทุกอย่างเสร็จก็สามารถลงมือจัดฟันให้คนไข้ได้เลย แต่ระยะเวลาในการจัดฟันที่จะเห็นผลลัพธ์นั้นอาจจะนาน ส่วนจัดฟันใสจะใช้เวลาในการตรวจนานกว่า ซึ่งเวลาจะหมดไปกับการรอความพร้อมต่าง ๆ ร่วมเดือน แต่การจัดฟันจริง ๆ แล้ว ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์แล้ว

อย่างไรก็ตามยังมีอีกปัจจัยที่คุณต้องทราบด้วย ก็คือ เรื่องดุลยพินิจของทันตแพทย์ บางคนอาจจะต้องการทำแบบใส แต่แพทย์ตรวจแล้วเห็นว่าไม่เหมาะหรือติดข้อจำกัดบางอย่าง หรือไม่ก็อาจจะติดปัญหาในส่วนของคลินิกเองที่อุปกรณ์บางอย่างอาจไม่พร้อม จึงต้องเลือกทำแบบโลหะแทน ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่การพิจารณาของแพทย์ด้วยนั่นเอง

ตอนนี้คุณคงได้ทราบกันแล้วว่าการจัดฟันแบบใสกับแบบโลหะมีความแตกต่างกันอย่างไร มีข้อเด่นข้อด้อย และข้อจำกัดอะไรบ้าง จะเลือกแบบไหนก็อยู่ที่คุณพิจารณาตามความเหมาะสม แต่จะให้ดีลองปรึกษาขอคำแนะนำจากทันตแพทย์จะชัวร์ที่สุด และดีต่อตัวคุณที่สุดเลยนั่นเอง