Sep
การทำ วีเนียร์ ( Veneer ) ในปัจจุบัน มีอยู่ 2 ประเภทหลัก ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันที่ ต้องการทำ วีเนียร์ ควรรู้ความแตกต่างของการทำวีเนียร์ แต่ละประเภท เพื่อให้สามารถเลือกทำได้ ตามความเหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุดได้
การทำ วีเนียร์ ( Veneer )
วีเนียร์ ( Veneer ) เป็นการแปะแผ่นเคลือบผิวฟัน โดยใช้วัสดุที่มี ลักษณะคล้ายกับ การเคลือบฟันธรรมชาติ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาฟันได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ ฟันห่าง , ฟันบิด , ฟันซ้อน , ฟันเก ,ฟันบิ่น , ฟันแตก และสีฟันไม่สม่ำเสมอ โดยการทำ วีเนียร์ ( Veneer ) มีด้วยกัน 2 ประเภท แบ่งได้ตามวัสดุแปะเคลือบฟัน ดังนี้
1. คอมโพสิต ( Composite )
เป็นการทำวีเนียร์ ( Veneer ) โดยใช้วัสดุ คือ คอมโพสิตเรซิน ( Composite Resin ) เป็นวัสดุผสม ระหว่างเรซิน และซิลิกา ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับที่ทันตแพทย์ใช้ใน การอุดฟัน การใช้คอมโพสิทเรซิ่นวีเนียร์ ( Composite Resin Veneers ) นั้น จะต้องถูกออกแบบ และวางแผนการรักษา โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถ เฉพาะทางในระดับที่สูง เนื่องจากในประเภทของ คอมโพสิทเรซิ่น จะประกอบด้วย ประเภทของวัสดุ ปลีกย่อยอีกมากมาย ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น จะสามารถออกแบบ และคัดสรรวัสดุที่เหมาะสม มากที่สุดในแต่ละบุคคล
การทำวีเนียร์ รูปแบบนี้ มีราคาที่ถูกกว่าแบบ พอร์ซเลน (Porcelain) แต่มีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 5 – 7 ปี
2. พอร์ซเลน ( Porcelain )
เป็นการทำวีเนียร์ ( Veneer ) โดยใช้วัสดุ คือ เซรามิกชนิดพิเศษ ที่ใช้ในทางการแพทย์ ทำให้เนื้อมีความเนียนสวย เหมือนเคลือบฟันธรรมชาติ และ มีความทนทานสูง ทำให้สีของฟัน ไม่มีการหมองหรือกลับมาเข้มได้ง่าย เกิดคราบได้ยาก และมีอายุการใช้งานอยู่ที่ ประมาณ 10- 15 ปี แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในการทำที่ค่อนข้างสูง มากกว่าแบบ คอมโพสิต ( Composite )
วีเนียร์แบบ คอมโพสิต ( Composite ) เหมาะกับใคร
วีเนียร์แบบ พอร์ซเลน ( Porcelain ) เหมาะกับใคร
การทำวีเนียร์ทั้ง 2 รูปแบบ มีราคาที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งราคาของ วีเนียร์ ( Veneer ) ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ทำ และคุณภาพของวัสดุ ที่มีความสอดคล้อง กับราคาที่มากขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้น เราจึงควรเลือกทำวีเนียร์ ในรูปแบบ ที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด ตามความต้องการ และตามคำแนะนำของทันตแพทย์ด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม