Nov
การทำ รากฟันเทียม เป็นหนึ่งวิธีที่ช่วย ทดแทนฟัน ที่สูญเสียไปได้ไม่ว่าจะจากกรณีใดก็ตาม โดยในการทำ รากฟันเทียม ผู้ที่ต้องการทำควรรู้ในเรื่องใดบ้าง มาติดตามกันครับ
หลายคนคงเคยได้ยินมาว่า "ฟัน" เป็นกระดูกที่แข็งแรงมากที่สุดของมนุษย์ ซึ่งเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะฟันเป็นอวัยวะที่สามารถอยู่กับมนุษย์ไปได้ตลอดชีวิต แต่ทั้งนี้ หากเราดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดการ สูญเสียฟันไปได้ โดยเฉพาะในวัยผู้สูงอายุ ที่ร่างกายในส่วนต่าง ๆ เริ่มมีการทำงานที่ถดถอยลง การสูญเสียฟันของคนวัยนี้ จึงสามารถเกิดขึ้นได้
ผู้ที่สูญเสียฟันไป คงทราบดีว่า ฟันแท้นั้น จะไม่สามารถขึ้นมาทดแทนได้อีกแล้ว ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไป จึงควรทำการรักษาทางทันตกรรม เพื่อทำการทดแทน ฟันแท้ของคุณ ที่เกิดการสูญเสียไปได้ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ทำได้ คือ การทำ "รากฟันเทียม" ( Dental Implants ) วัสดุที่มีรูปร่าง คล้ายรากฟัน ทำมาจาก ไททาเนียม (Titanium) ซึ่งเป็นวัสดุที่เข้ากับร่างกายคนเราได้ดี ใช้ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อช่วยในการทำฟันเทียมแบบติดแน่น และแบบถอดได้
การทำรากเทียมมีกี่รูปแบบ
การทำรากฟันเทียม ( Dental Implants ) สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. Conventional Implant
เป็นการผ่าตัดฝังรากเทียมแบบทั่วไป คือ จะต้องมีการวางแผนรักษา นัดคนไข้มาหาตำแหน่งที่จะทำการฝังรากเทียม รูปแบบนี้เมื่อทำการฝังรากเทียมแล้ว จะต้องรอให้ส่วนของรากเทียมประสาน ยึดติดกับกระดูก ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือน
2. Immediate implant
เป็นการทำรากฟันเทียมประเภทนี้ คือ หลังจากทำการถอนฟันเสร็จ ก็จะทำการฝังรากเทียมทันที ซึ่งปกติแล้วทันตแพทย์ จะเลือกวิธีนี้ ในกรณีที่ตำแหน่ง ฟันที่มีปัญหาเป็นฟันหน้า หรือ ฟันกล้ามน้อย แต่อย่างไรก็จะต้อง ต้องพิจารณาดูปัจจัยอื่น ๆ ด้วยอีกครั้ง ว่ามีความพร้อม และ สามารถทำได้หรือไม่
3. Immediate loaded implant
เป็นวิธีการฝังรากฟันเทียม เพื่อทดแทนฟันที่หายไประยะหนึ่งแล้วคล้าย ๆ กับการฝังรากฟันเทียม หลังจากทำการฝังรากเทียมแล้ว ทันตแพทย์จะมีการทำครอบฟัน โดยครอบลงไปที่รากเทียมทันที ตัวครอบฟันอาจจะเป็นแบบ ที่ใช้ชั่วคราว หรือ แบบติดแน่นถาวรก็ได้ ซึ่งการทำรากฟันประเภทนี้ ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร แต่จะตอบโจทย์เรื่อง ของระยะเวลาการรักษาของคนไข้ และ ได้ประโยชน์ใน เรื่องของความสวยงามของฟัน
ผู้ที่ควรทำ รากฟันเทียม
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะเข้ามาทำ รากฟันเทียม ทันตแพทย์ จะทำการวินิจฉัยตามปัจจัยต่าง ๆ ของผู้ทำการรักษา เพื่อให้การทำรากฟันมีประสิทธิภาพสูงที่สุด เช่น คนไข้มีปริมาณของกระดูก ไม่เหมาะสมกับการฝังรากเทียม ก็อาจจะต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติม โดยการผ่าตัดยกเยื่อไซนัส เพื่อทำการปลูกกระดูก ซึ่งอาจทำก่อน การผ่าตัดฝังรากเทียมก็ได้ หรือจะทำไปพร้อม ๆ กันเลยก็ได้ ก็ขึ้นอยู่กับกรณีที่แตกต่างกันไป
อ่านบทความเพิ่มเติม
การปฏิบัติตัวเมื่อเข้ารับ การรักษารากฟัน ( Root Canal Treatment ) ครั้งแรก