ฟันแท้ หากสูญเสียไปแล้ว จะไม่สามารถมีฟันใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ แต่สามารถทดแทนด้วยการทำฟันใหม่ขึ้นมาได้ด้วยการ ทำ รากฟันเทียม ( Dental Implants )

 

หลายคนคงทราบดีว่า ฟันแท้ เป็นฟันที่ขึ้นมาทดแทนฟันน้ำนม เมื่อฟันแท้ขึ้นมาแล้ว จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ไม่สามารถมีฟันใหม่ขึ้นมาทดแทนได้ โดยฟันแท้ มีจำนวนทั้งหมด 32 ซี่ แบ่งเป็น ฟันซี่บน 16 ซี่ และฟันซี่ล่าง 16 ซี่ ซึ่งฟันแท้แต่ละซี่ จะขึ้นในช่วงอายุแตกต่างกัน รวมถึง มีรูปร่าง และขนาดแตกต่างกัน

 

หากเราสูญเสีย ฟันแท้ไป ไม่ว่าจากอุบัติเหตุ อายุที่มากขึ้น หรือปัจจัยอื่น ๆ  ล้วนส่งผลต่อการบดเคี้ยวอาหารของคุณได้ รวมไปถึง ทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจในการพูด ยิ้ม หรือหัวเราะได้ ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ จึงควรหาวิธีการเพื่อทดแทนฟันใหม่ที่เสียไป ซึ่งการทำ รากฟันเทียม ( Dental Implants ) ก็ถือเป็นอีก ทางเลือกหนึ่ง ที่สามารถ ทดแทนฟันใหม่ จากการสูญเสียฟันแท้ไปได้ และมีลักษณะเหมือนกับฟันแท้

 

รากฟันเทียม คืออะไร?

 

รากฟันเทียม ( Dental Implants ) คือ วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟัน ทำมาจากวัสดุอย่าง ไททาเนียม (Titanium)  ซึ่งเป็นวัสดุที่เข้ากับร่างกายของมนุษย์ได้ดี ใช้ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร เพื่อช่วยในการทำฟันเทียมแบบติดแน่น และแบบถอดได้ ปัจจุบันการใส่รากฟันเทียม ถือว่าเป็นวิธีการใส่ฟันที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง

 

รากฟันเทียม ประกอบไปด้วย lmplant body หรือ Fixture คือ ส่วนที่อยู่ใน กระดูกขากรรไกรของเรา และต้องฝังตรงใต้เหงือก ทำหน้าที่ ทดแทนรากฟันจริงของเรา จะมีลักษณะ คล้าย ๆ กับ สกรู ส่วน lmplant Abutment คือ ส่วนที่รับรองตัวครอบฟันของเรา ที่จะถูกนำมาใช้ทดแทน โครงสร้างของ แกนฟัน ของเรา Crown คือ ตัวฟันที่ทำมาจาก เซรามิก โดยจะมีสีเหมือนฟัน และ รูปร่างนั้นจะลอกเลียนแบบมาจาก ฟันธรรมชาติของเรา

 

ประเภทของรากเทียม ( Dental Implants )

 

 ในปัจจุบันการทำรากฟันเทียม สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

 

1. การฝังรากเทียมแบบธรรมดา ( Conventional Implant )

 

เป็นการผ่าตัดฝังรากเทียมแบบทั่วไป คือ จะต้องมีการวางแผนรักษา นัดคนไข้ มาหาตำแหน่งที่จะทำการฝังรากเทียม รากฟันเทียม รูปแบบนี้ เมื่อทำการฝังรากเทียมแล้ว จะต้องรอให้ส่วนของรากเทียมประสาน ยึดติดกับกระดูก ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือน

 

2. การฝังรากเทียมแบบทันที ( Immediate implant )

 

เป็นการทำรากฟันเทียมประเภทนี้ คือ หลังจากทำการถอนฟันเสร็จ ก็จะทำการฝังรากเทียมทันที ซึ่งปกติแล้วทันตแพทย์ จะเลือกวิธีนี้ ในกรณีที่ตำแหน่ง ฟันที่มีปัญหาเป็นฟันหน้า หรือ ฟันกล้ามน้อย แต่อย่างไรก็จะต้อง ต้องพิจารณาดูปัจจัยอื่น ๆ ด้วยอีกครั้ง ว่ามีความพร้อม และ สามารถทำได้หรือไม่

 

3. การเชื่อมต่อส่วนของฟันปลอม ( Immediate loaded implant )

 

เป็นวิธีการฝังรากฟันเทียม เพื่อทดแทนฟันที่หายไประยะหนึ่งแล้วคล้าย ๆ กับการฝังรากฟันเทียม หลังจากทำการฝังรากเทียมแล้ว ทันตแพทย์ จะมีการทำครอบฟัน โดยครอบลงไปที่รากเทียมทันที ตัวครอบฟันอาจจะเป็นแบบ ที่ใช้ชั่วคราว หรือ แบบติดแน่นถาวรก็ได้ ซึ่งการทำรากฟันในรูปแบบนี้ ค่อนข้างซับซ้อนพอสมควร แต่จะตอบโจทย์เรื่อง ของระยะเวลาการรักษาของคนไข้ และ ได้ประโยชน์ใน เรื่องของความสวยงามของฟัน

 

การเตรียมตัวเข้ารับการทำ รากฟันเทียม

 

ในผู้ป่วยที่รักษาด้วย รากฟันเทียม ต้องมีการตรวจ และประเมินช่องปากโดยละเอียดจาก ทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง เพราะอาจแก้ไขได้ยากมาก อีกทั้งทันตแพทย์จำเป็นต้องมีความรู้ และความชำนาญ สามารถเลือกรากฟันเทียม ที่เหมาะสมกับคนไข้ได้ มีความเข้าใจเรื่องการบดเคี้ยว และขั้นตอนทางทันตกรรมประดิษฐ์ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาอยู่ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบ และที่สำคัญ ผู้ป่วยควรดูแลสุขอนามัยช่องปากให้ดี ก่อนเข้ารับการรักษา

 

ผู้ที่สูญเสีย ฟันแท้ และทำการรักษาด้วยวิธี รากฟันเทียม จะช่วยทำให้ผู้ที่ได้รับการรักษา สามารถทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไปได้ ทำให้สามารถ บดเคี้ยวอาหาร หรือ การรับประทานอาหารได้ดี เหมือนกับ รากฟันจริง และช่วยเรื่องสร้าง ความมั่นใจ ในการใช้ช่องปากได้มากขึ้น อีกด้วย

 

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

เหตุผลดีๆ ของการทำรากฟันเทียม

วิธีดูแล เบื้องต้นหลังทำ รากฟันเทียม ( Implants )