Dec
ฟันสวยแบบซุปตาร์คุณก็มีได้ ด้วยเคล็ดลับเคลือบผิวฟัน “วีเนียร์“
การมีปัญหาที่ฟัน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเสียความมั่นใจในตัวเองไปได้ บางคนยิ้มอยู่หน้ากระจกพบว่าตนเอง ฟันบิ่น ฟันสั้น ฟันมีการเรียงตัวไม่สมดุลกัน สีฟันไม่สม่ำเสมอ เวลาอยู่กับผู้อื่นก็ทำให้รู้สึกไม่กล้าพูด ไม่กล้ายิ้ม แต่ปัจจุบันมีเทคนิคดี ๆ ที่ช่วยทำให้ฟันสวยได้ นั่นคือ การทำ “วีเนียร์” และตอนนี้ซุปตาร์ดาราคนดังมากมายก็ทำกันด้วย สิ่งนี้คืออะไรไปทำความรู้จักกันได้เลย
มารู้จักการทำวีเนียร์ฟันกันดีกว่า
เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักการทำฟันปลอมกันอยู่แล้ว ซึ่งการทำวีเนียร์ (Veneer) จะบอกว่าเป็นการทำฟันปลอมประเภทหนึ่งก็ได้ แต่อย่าเพิ่งประหลาดใจไปว่าเราแนะนำเรื่องการทำฟันปลอมทำไม เพราะวิธีนี้ไม่เหมือนกันทำฟันปลอมแบบทั่วไป สิ่งที่แตกต่างก็คือ
· Veneer จะเป็นการทำฟันปลอมแบบครอบฟันทั้งซี่ คือ จะมีการตกแต่งฟันด้วยการกรอผิวฟัน และนำวัสดุประเภทเซรามิกมาครอบฟันอีกที จะเรียกอีกว่าเป็น “การเคลือบผิวฟัน” ก็ว่าได้
· การทำวีเนียร์จัดว่าเป็นทันตกรรมแบบ Cosmetic dentistry หรือทันตกรรมเพื่อความงาม ซึ่งจะแตกต่างไปกับการทำฟันปลอมทั่วไปซึ่งจัดเป็นประเภททันตกรรมประดิษฐ์
Veneer ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
จุดประสงค์หลักของการทำวีเนียร์ฟันนั้นก็เป็นการแก้ไขปัญหาความผิดปกติของฟันและรูปลักษณ์ของฟันที่ส่งผลต่อรอยยิ้มของคุณ ซึ่งปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำเคลือบฟันแบบนี้ก็คือ
· ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสีของฟัน
· ช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวฟันไม่เรียบ
· ช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องขนาดของฟัน วิธีนี้สามารถสร้างขนาดของฟันให้มีขนาดใหญ่ขึ้นรับกับช่องปากและใบหน้าได้ หรือช่วยลดระดับความห่างของฟันได้
· ช่วยแก้ไขเรื่องรูปร่างของฟันที่ไม่สวย วิธีนี้สามารถปรับแก้ไขลักษณะรูปร่างของฟันที่รูปร่างไม่สวย ให้ได้รูปลักษณ์ที่ดี และจัดทรงของฟันให้อยู่ในลักษณะที่ต้องการได้
Veneer มีกี่ประเภท
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การทำวีเนียร์ เป็นการนำวัสดุประเภทเซรามิกแบบบางและมีความพิเศษมาครอบฟันอีกที ซึ่งการทำเคลือบฟันแบบนี้จึงถูกแบ่งออกเป็น 2
ประเภทตามวัสดุที่เลือกนำมาใช้ดังนี้
· ประเภทเซรามิก – เป็นการทำเคลือบฟันโดยการใช้วัสดุเซรามิกที่มีความบาง รูปลักษณ์เหมือนฟันจริงมาแปะลงที่ผิวหน้าของฟัน
· ประเภทคอมโพสิต – เป็นการนำวัสดุแบบคอมโพสิต ซึ่งเป็นเรซิ่นแบบหนึ่งมาสร้างรูปร่างของฟันขึ้นมาใหม่ ซึ่งการสร้างจะทำขึ้นโดยอิงจากฟันของคนไข้เลย
ซึ่งการทำวีเนียร์ฟันทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวมานั้นมีเป้าหมายเดียวกันให้ผลลัพธ์ปลายทางเหมือนกัน จะแตกต่างกันในด้านของราคา ก็ขึ้นอยู่กับคนไข้และคลินิกจะเลือกใช้วิธีไหน (อ่าน…วีเนียร์แบบเซรามิก vs แบบคอมโพสิต เลือกแบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน)
มีปัญหาฟันแบบไหนถึงจะเหมาะกับการทำ Veneer
· สำหรับคนที่มีปัญหาสีฟันไม่สวยมาตั้งแต่กำเนิด (อาจเกิดขึ้นตอนคุณแม่ตั้งครรภ์และได้รับยาบางชนิด) โดยวิธีนี้สามารถสร้างความขาวให้กับผิวฟัน ซึ่งสามารถเลือกเฉดความขาวที่คุณต้องการได้
· คนที่มีฟันผุที่ฟันหน้า ฟันสึก หรือกร่อน
· คนที่มีปัญหาฟันแตก ฟันบิ่น ฟันห่าง
· คนที่มีปัญหาเรื่องรูปร่างของฟัน ฟันไม่สวย ฟัน ผิดรูป
(อ่าน…รวบตึงทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำวีเนียร์)
ขั้นตอนการทำ Veneer เป็นอย่างไร
1. ขั้นแรกก่อนรักษา ทันตแพทย์ก็จะเริ่มต้นจากการตรวจสุขภาพฟันและช่องปาก เป็นการประเมินภาพรวมตามปกติ เพื่อดูว่าฟันมีปัญหาแบบไหน และมีปัญหาอะไรที่ต้องแก้ไขก่อนหรือไม่ หากมีจุดที่ต้องแก้ไขก่อน ก็จะทำการรักษาก่อน
2. กรณีที่ฟันและช่องปากไม่มีปัญหา หรือมีแต่ได้รับการแก้ไขแล้ว ก็จะมาสู่ขั้นตอนการเตรียมผิวหน้าฟัน นั่นคือ แพทย์จะมีการกรอผิวหน้าฟันออกเล็กน้อย (จะกรอฟันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทการทำ Veneer ด้วย)
3. จากนั้นจะมีการพิมพ์ฟันคนไข้ และนำแม่พิมพ์ส่งห้องแลปเพื่อให้สร้างฟันจากวัสดุที่ต้องการขึ้นมา
4. ระหว่างรอฟันอีกชุดที่สร้างใหม่ ทันตแพทย์ก็จะทำการเคลือบฟันให้คนไข้ และเมื่อได้ฟันที่สร้างใหม่จากห้องแลปมาแล้ว แพทย์ก็จะทำการติดฟันใหม่นั้นเข้ากับฟันจริง โดยใช้วัสดุประเภทซีเมนต์ทางทันตกรรมเป็นตัวช่วยยึดติด เท่านี้เป็นเป็นอันจบกระบวนการ
การดูแลรักษา Veneer หลังจากเข้ารับการทำมา
สิ่งหนึ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำก็คือ การทำวีเนียร์ราคานั้นค่อนข้างสูงทีเดียว การทำ 1 ครั้งโดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ได้นาน 5 – 10 ปี แต่ถ้าได้รับการดูแลอย่างดี อาจอยู่ได้นานถึง 15 – 20 ปีเลยทีเดียว
นั่นหมายความว่า การทำออกมาจนเสร็จเรียบร้อยก็ควรที่จะต้องมีการดูแลรักษาให้ Veneer อยู่กับเราได้นานที่สุดเพราะการที่จะต้องแก้ไขหรือเปลี่ยนใหม่ทำใหม่นั้นมีข้อจำกัดมากมาย ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและกระบวนการทำรวมถึงสุขภาพของฟันเราที่อาจจะไม่พร้อมทำอีกครั้งก็ได้
ดังนั้น หลังจากเข้ารับการทำ Veneer มาแล้วคุณจึงต้องพยายามดูแลรักษาให้ดีที่สุด ซึ่งวิธีการดูแลรักษาก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน คุณแค่ทำดังนี้
· หมั่นดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟัน โดยแปรงฟัน ขัดฟัน และบ้วนปากให้ถูกวิธีตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
· หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำลายฟัน หรือมีผลต่อฟันอย่างเช่น อาหารที่มีความแข็ง เหนียว หรือที่มีผลต่อการกัดกร่อนฟันและทำให้ฟันสึกได้ง่าย
· มาพบทันตแพทย์ตามที่ได้รับนัดหมายเป็นประจำ