Mon - Sun: 10.00AM to 08.00PM
ติดต่อสอบถาม: 02-012-0192

เตรียมตัวก่อนจัดฟัน

admin01

สำหรับคนที่เตรียมตัวจัดฟันครั้งแรกอาจมีข้อมูลในเรื่องการจัดฟันน้อย ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง มีค่าใช้จ่ายอะไรเท่าไหร่บ้าง ใช้เวลานานแค่ไหน วันนี้เรามาดูขั้นตอนทั้งหมดแบบละเอียด ๆ กันเลย

 

1.สาเหตุที่เราต้องจัดฟัน

     การจัดฟัน นอกจากจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องฟันยื่น ฟันเก ฟันเบี้ยว ฟันล้ม ฟันห่าง ไปจนถึงเหงือกมีปัญหาและคางสั้น การ จัดฟัน ก็ช่วยแห้ปัญหาได้ แต่ก็ต้องให้ทันตแพทย์จากโรงพยาบาลหรือคลินิกทำฟันเป็นผู้แนะนำว่า คุณสามารถจัดฟันได้หรือไม่

 

2.ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน

     การจัดฟันในแต่ละบุคคลจะมีค่าใช้จ่ายไม่เท่ากัน ทั้งช่วงก่อนจัดฟันกับตอนเริ่มจัดฟัน เพราะการถอนฟันหรือดูแลรักษาฟันก่อนจัดฟันของแต่ละคนก็มีการถอนฟันและใช้เวลาดูแลฟันไม่เท่ากัน ขณะที่เคสในการดัดฟันด้วยเหล็กดัดฟันของแต่ละคนก็มีความยากง่ายไม่เท่ากัน ระยะเวลาจึงต่างกัน แต่ก็สามารถคำนวณได้คร่าว ๆ ว่าอยู่ที่ประมาณ 3-5 หมื่นบาท ซึ่งคลินิกจัดฟันแต่ละแห่งจะมีโปรโมชั่นต่างกัน บางแห่งให้จ่ายเป็นงวด ๆ บางแห่งจ่ายเป็นก้อน บางแห่งจ่ายทุกเดือน คุณสามารถเลือกได้ตามความสะดวก

 

3.การเตรียมตัวจัดฟัน

หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับการสบฟัน เช่น ฟันซ้อนเก ฟันยื่น ฟันเกิน ฟันห่าง เป็นต้น ก็ควรได้รับคำปรึกษาจากทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน เพื่อจะได้ทำการแก้ไขและรักษาอย่างทันท่วงทีค่ะ

ฟิล์มเอ็กซเรย์ของคนไข้จัดฟันทุกคนต้องถ่าย เพื่อให้คุณหมอวางแผนการรักษาจัดฟัน โดยคุณหมอจะต้องดูความสัมพันธ์ของขากรรไกรบนและล่าง ดูโปรไฟล์ใบหน้าและริมฝีปากด้านข้าง ดูแนวแกนฟัน ดูรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ อีกมากมายจากฟิล์ม หลังจากได้แผนการรักษาแล้ว ทันตแพทย์จัดฟันก็จะแจ้งให้ทราบว่าจำเป็นต้องถอนฟันกี่ซี่ และซี่ไหนบ้างค่ะ

การติดเครื่องมือจัดฟันค่ะ เช่น ฟันซี่ไหนผุ ก็รีบอุดให้เรียบร้อย และก็ขูดหินปูนให้สะอาดค่ะ

 

4.เริ่มจัดฟัน

     สิ่งที่ทุกคนต้องเจอเมื่อเริ่มต้นการจัดฟันก็คือ ความเจ็บปวดในช่องปาก ทั้งปวดฟัน ปวดเหงือก รู้สึกตึงไปทั้งปาก ฟันไม่สบกัน เคี้ยวอาหารยาก เหล็กทิ่มช่องปาก สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ความอดทน อาการปวดตึงจะหายไปใน 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นคุณจะรู้สึกชินไปเอง หากปวดมาก ๆ สามารถทานยาแก้ปวดได้ ถ้ากัดปากตัวเองจนเป็นแผล หรือเหล็กทิ่ม ให้ใช้ยาทาแผลในปากป้าย พยายามทานอาหารอ่อน ๆ ไม่ทานอาหารที่มีความแข็งหรือเหนียว บ้วนปากบ่อย ๆ พกไม้จิ้มฟันเพื่อจัดการเศษอาหารที่ติดเหล็กดัดฟัน และการแปรงฟันต้องใช้เวลามากกว่าคนทั่วไป

 

5.ควรเริ่มจัดฟันเมื่อไหร่

     การจัดฟันเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนไข้ทุกช่วงวัยไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก วัยรุ่น หรือวันทำงาน ก็เลือกวิธีนี้ในการรักษาปัญหาฟันต่าง ๆ อาทิเช่น ฟันห่าง ฟันยื่น ฟันซ้อน ฟันสบกัน ซึ่งปัญหาฟันเหล่านี้สร้างความลำบากเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเคี้ยวอาหารทำให้มีคนฟันผุและเป็นโรคอื่นจากการเคี้ยวข้าวไม่ละเอียดทำให้เศษอาหารไปติดซอกฟันได้ และบางคนเสียความมั่นใจเนื่องจากยิ้มไม่สวย เพราะฉะนั้นควรจะเลือกจัดฟันดีที่สุด แต่ควรจะเริ่มจัดฟันในช่วงอายุเท่าใดจึงจะทำให้ได้ผลดีที่สุด

 

6.ช่วงอายุและวัยที่เหมาะสำหรับการจัดฟัน

     แม้ว่าการจัดฟันจะสามารถทำได้ทุกคน และทุกวัย แต่ต้องเป็นคนที่มีปัญหาทั้ง 7 แบบ ได้แก่ปัญหาฟันไม่สบกัน ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันกัดคร่อม ฟันล่างยื่น ฟันบนยื่น ฟันกัดเบี้ยว ซึ่งจะต้องทำการรักษาด้วยวิธีการจัดฟันเท่านั้น ช่วงอายุที่เหมาะสำหรับการจัดฟันคือ 18 ถึง 20 ปี หรือวัยรุ่น เป็นช่วงที่ร่างกาย กระดูก และฟันกำลังเจริญเติบโตเต็มที่ทำให้การปรับรูปร่างฟันนั้นสามารถทำได้ง่ายกว่าในวัยอื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วได้มีการวิจัยว่าช่วงอายุที่เหมาะสำหรับการทำฟันมากที่สุด คือ วัยเด็ก เพราะเป็นช่วงวัยที่กำลังจะเจริญเติบโตและช่วงวัยเด็กจะทำให้ฟันนั้นเรียงตัวกันสวยงามเป็นธรรมชาติมากกว่าวัยรุ่นหรือวัยทำงาน

 

7.การจัดฟันของแต่ละช่วงวัยเป็นอย่างไร

     การรักษาปัญหาฟันด้วยการจัดฟันนั้นของแต่ละช่วงวัยนั้นจะมีความแตกต่างกัน เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับฟันที่แตกต่างกัน รวมไปถึงระยะเวลาที่ใช้ รูปแบบของฟัน

สำหรับวัยเด็กที่จะได้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีการจัดฟันนั้น จะต้องมีฟันหน้ายื่นมากกว่าปกติ การที่เด็กมีปันหน้ายื่นมากกว่าปกติจะทำให้เสียบุคลิกภาพ ทำให้ผู้ปกครองมักจะพามาทำการรักษาด้วยวิธีการจัดฟันและจะใช้เวลาในการจัดไม่นาน เนื่องจากร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ทำให้การจัดรูปแบบของฟันนั้นสามารถทำได้ง่าย และยังรวมไปถึงปัญหาฟันห่าง ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติถ้าหากตรวจพบตั้งแต่ในช่วงวัยเด็กก็ควรจะทำการรักษาด้วยการจัดฟันทันที เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในระยะยาว

จะเป็นได้ว่าช่วงวัยนี้จะทำการจัดฟันมากกว่าช่วงวัยอื่น เพราะความเชื่อที่ว่าการจัดฟันในช่วงวัยนี้จะช่วยให้ฟันเข้ารูปได้ง่ายและรวดเร็วกว่า อีกทั้งยังเป็นช่วงอายุที่เหมาะสมมากที่สุด เพราะฟันทุกซี่จะเป็นฟันแท้และมีความถาวรมากกว่าในช่วงวัยเด็ก เมื่อทำการปรับรูปฟันในช่วงวัยนี้จะช่วยให้รูปแบบมีความคงทน ถาวรมากที่สุด

สำหรับในช่วงวัยนี้ก็สามารถทำการจัดฟันได้ ส่วนใหญ่แล้วจะเลือกจัดฟันเพื่อความสวยงามและแก้ไขรูปร่างของฟันเท่านั้น เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีฟันแท้ครบและบางคนอาจจะเกิดฟันผิดรูปจึงต้องจัดฟันใหม่เพื่อให้เข้ารูปกับเหงือกเพิ่มขึ้น แต่ต้องใช้ระยะเวลาที่นานกว่าในช่วงวัยอื่น

 

8.สิ่งที่ต้องเตรียมเมื่อต้องการจัดฟัน

     คนที่จะเริ่มจัดฟันนอกจากจะต้องมีช่วงวัยที่เหมาะสมและมีปัญหาฟันทั้ง 7 รูปแบบแล้ว ยังต้องมีสิ่งที่ต้องเตรียมก่อนที่จะเริ่มจัดฟันด้วย ดังนี้

     สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรกคือ การเลือกคลินิกที่ดีและมีมาตรฐาน เนื่องจากการจัดฟันนั้นจะต้องติดตั้งเครื่องมือชนิดพิเศษตามประเภทที่คนไข้เลือกไม่ว่าจะเป็นเหล็ก เซรามิก ดามอน หรือประเภทใสก็จะถูกติดตั้งด้วยเครื่องมือเฉพาะเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานก็ช่วยให้ได้รับการรักษาที่ดีและสุขภาพภายในช่องปากก็จะได้รับการดูแลตามไปด้วย มีคนจำนวนมากที่เลือกจัดฟันกับคลินิกไม่ได้มาตรฐานและทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา ทั้งฟันล้ม รากฟันเน่า เป็นต้น

     คนที่จำเริ่มจัดฟันจะต้องทำการปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าฟันของตนเอง ควรจะเลือกจัดฟันตามประเภทใดและต้องมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ ถ้าหากเลือกจัดแบบเหล็กหรือโลหะจะต้องใช้เงินทุนมากถึง และถ้าหากเป็นแบบดามอนและแบบใสจะมีราคาที่สูงเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นจะต้องตรวจสอบค่าใช้จ่ายก่อนที่จะเริ่มจัดฟันแม้ว่าไม่ได้จ่ายเงินทั้งหมดก็ตาม

     คนไข้ที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีการจัดฟันจะต้องทำใจยอมรับต่อความเจ็บปวด ตั้งแต่การติดตั้งเครื่องมือไปจนถึงติดตั้งเครื่องมือจนเสร็จ หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์ก็ต้องดูแลช่องปากของตนเอง ถ้าหากเกิดอาการเจ็บหรือปวดบริเวณฟันก็ต้องรับประทานยาตามที่ทันตแพทย์สั่งเท่านั้น

 

9.ไปหาหมอฟันตามนัด

     เมื่อผ่าน 2-3 เดือนแรกไป คุณจะเริ่มชินกับการใส่เหล็กดัดฟัน หลังจากนี้ก็มีความสนุกเล็ก ๆ ในการเลือกสียางจัดฟันสวย ๆ แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การพยายามไปหาหมอฟันตามนัดเป็นประจำทุกเดือนถ้าเป็นไปได้ไม่ควรขาด เพราะจะยิ่งทำให้การจัดฟันของคุณนานขึ้นไปอีก และอาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่คุณหมอจัดฟันจะมีคิวว่างแค่เดือนละไม่กี่วัน ดังนั้นคุณต้องเคลียร์คิวทุกอย่างให้กับการจัดฟันเนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ

 

10.หลังจัดฟัน

     หลังการจัดฟันเมื่อถอดเหล็กดัดฟันออก ทุกคนจะได้รีเทนเนอร์มาใส่ ซึ่งมีความยุ่งยากตรงที่การต้องถอดเข้าถอดออกทุกครั้งที่ทานอาหาร และหมั่นล้างทำความสะอาด เนื่องจากเมื่อเราทานอาหารเสร็จแล้วถ้าไม่แปรงฟันก่อนใส่รีเทนเนอร์ ก็จะมีคราบเศษอาหารไปติดตามรีเทนเนอร์ ทำให้เกิดคราบสะสม แต่ทุกคนก็ต้องทำตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัด กับการใส่รีเทนเนอร์ให้เป็นประจำ ตามระยะเวลาที่กำหนด มิเช่นนั้น ไม่นานฟันคุณก็อาจจะกลับมาเป็นเหมือนตอนก่อนจัดฟันอีก

 

อ่านบทความอื่นเพิ่มเติม

จัดฟันแฟชั่นความสวยงามที่มีอันตรายซ่อนอยู่

รีเทนเนอร์สำคัญอย่างไร

dentistaonnut
LINE